ไม้เศรษฐกิจเพื่อการปลูกเชิงพาณิชย์
ขอแนะนำไม้เศรษฐกิจที่น่าสนใจ เป็นไม้ใหญ่ ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง
ได้แก่ ไม้สัก กับไม้ตะกู ซึ่งไม้ทั้ง 2 ชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษคือ ปลวกและมอดไม่กินเนื้อไม้ ซึ่งไม้ตะกูจะมีคุณภาพเนื้อไม้ใกล้เคียงกับไม้สัก แต่ใช้ระยะเวลาในการปลูกสั้นกว่า (ระยะเวลาพอ ๆ กับไม้ยูคาลิปตัส)
แต่โดยภาพรวมแล้วไม้ทั้ง 2 ชนิดนี้จะใช้เวลาในการปลูกนานกว่าไม้ชนิดอื่น ๆ
ไม้สักทอง (สายพันธุ์โตเร็ว)
ระยะเวลาปลูก 15-20 ปี
ไม้สัก (Teak) มีถิ่นกำเนิดอยู่ในตอนใต้ของประเทศอินเดีย พม่า ไทย อินโดนีเซีย และหมู่เกาะอินเดียตะวันออก เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ ชอบขึ้นตามพื้นที่ที่เป็นภูเขา แต่ในพื้นที่ราบที่น้ำไม่ขังไม้สักก็ขึ้นได้ดีเช่นเดียวกัน ในพื้นที่ที่เป็นดินปนทรายแต่น้ำไม่ขัง ไม้สักมักขึ้นเป็นหมู่ไม้สักล้วน ๆ และมีไม้ขนาดใหญ่ ชอบพื้นที่ที่มีชั้นดินลึก การระบายน้ำดี ไม่ชอบดินแข็งและน้ำท่วมขัง แต่ความเจริญงอกงามของไม้สักขึ้นอยู่กับความลึก การระบายน้ำ ความชื้น และความอุดมสมบูรณ์ ของดินนั้น ๆ โดยเฉพาะในดินที่เกิดจากหินปูนซึ่งแตกแยกผุผังจนกลายเป็นดินร่วนที่ลึก ไม้สักชอบมากและเจริญเติบโตดีมาก ไม้สักชอบดินที่มีความเป็นกลางและด่างเล็กน้อย ค่า pH ระหว่าง 6.5-7.5 ปริมาณน้ำฝน ระหว่าง 1,200-2,000 มม. ต่อปี ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางไม่เกิน 700 เมตร และมีฤดูแล้งแยกจากฤดูฝนชัดเจนจะทำให้ไม้สักมีลวดลายสวยงาม
ขอแนะนำไม้เศรษฐกิจที่น่าสนใจ เป็นไม้ใหญ่ ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง
ได้แก่ ไม้สัก กับไม้ตะกู ซึ่งไม้ทั้ง 2 ชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษคือ ปลวกและมอดไม่กินเนื้อไม้ ซึ่งไม้ตะกูจะมีคุณภาพเนื้อไม้ใกล้เคียงกับไม้สัก แต่ใช้ระยะเวลาในการปลูกสั้นกว่า (ระยะเวลาพอ ๆ กับไม้ยูคาลิปตัส)
แต่โดยภาพรวมแล้วไม้ทั้ง 2 ชนิดนี้จะใช้เวลาในการปลูกนานกว่าไม้ชนิดอื่น ๆ
ไม้สักทอง (สายพันธุ์โตเร็ว)
ระยะเวลาปลูก 15-20 ปี
ไม้สัก (Teak) มีถิ่นกำเนิดอยู่ในตอนใต้ของประเทศอินเดีย พม่า ไทย อินโดนีเซีย และหมู่เกาะอินเดียตะวันออก เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ ชอบขึ้นตามพื้นที่ที่เป็นภูเขา แต่ในพื้นที่ราบที่น้ำไม่ขังไม้สักก็ขึ้นได้ดีเช่นเดียวกัน ในพื้นที่ที่เป็นดินปนทรายแต่น้ำไม่ขัง ไม้สักมักขึ้นเป็นหมู่ไม้สักล้วน ๆ และมีไม้ขนาดใหญ่ ชอบพื้นที่ที่มีชั้นดินลึก การระบายน้ำดี ไม่ชอบดินแข็งและน้ำท่วมขัง แต่ความเจริญงอกงามของไม้สักขึ้นอยู่กับความลึก การระบายน้ำ ความชื้น และความอุดมสมบูรณ์ ของดินนั้น ๆ โดยเฉพาะในดินที่เกิดจากหินปูนซึ่งแตกแยกผุผังจนกลายเป็นดินร่วนที่ลึก ไม้สักชอบมากและเจริญเติบโตดีมาก ไม้สักชอบดินที่มีความเป็นกลางและด่างเล็กน้อย ค่า pH ระหว่าง 6.5-7.5 ปริมาณน้ำฝน ระหว่าง 1,200-2,000 มม. ต่อปี ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางไม่เกิน 700 เมตร และมีฤดูแล้งแยกจากฤดูฝนชัดเจนจะทำให้ไม้สักมีลวดลายสวยงาม
- คุณลักษณะของไม้สัก
- ราคารับซื้อไม้สัก
รอบวง 45-49 ซม ราคา 2,800 บาท
รอบวง 50-54 ซม ราคา3,500 บาท
รอบวง 55-59 ซม ราคา 3,900 บาท
รอบวง 60-64 ซม ราคา 4,500 บาท
รอบวง 65-69 ซม ราคา 5,200 บาท
รอบวง 70-74 ซม ราคา 6,500 บาท
รอบวง 75-79 ซม ราคา 7,000 บาท
ปลูกไม้เวลา 20 ปี มีมูลค่าได้ถึงต้นละ 1 แสนบาทเชียว
****************************************************
ไม้ตะกู (สายพันธุ์ก้านแดง)
ระยะเวลาปลูก 5 ปี
ต้นตะกู หรือ ตุ้มหลวง ตุ้มเนี่ยง ตุ้มพราย ทุ่มพราย กระทุ่มบก ต้นตะกูเป็นไม้ขนาดใหญ่ สูง 15 – 30 เมตร กิ่งออกเกือบตั้งฉากกับลำต้น แผ่นใบเกลี้ยงหรือมีขนนุ่มสั้นอยู่ด้านล่าง หูเป็นรูปสามเหลี่ยม ดอกสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อกระจุกแน่น กลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 – 5 ซ.ม.ก้านช่อยาว 3 – 4 ซ.ม. ดอกเล็กอัดกันแน่น กลีบเลี้ยงเป็นหลอดสั้น กลีบดอกสีเหลืองเชื่อมกันเป็นหลอดยาวรูปดอกเข้ม ผลเป็นกระจุกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและสีน้ำตาลเมื่อแก่ ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น ตามหุบเขาหรือริมลำธาร
ต้นตะกูอาจจะไม่คุ้นหู เพราะใกล้สูญพันธ์ในประเทศไทยแล้ว
- คุณลักษณะของตะกู
- ราคารับซื้อไม้ตะกู
ตะกูมีเนื้อไม้ 2.5 คิว ปัจจุบันราคาไม้ คิวละ 2,500 บาท
ไม้ตะกูมีความหนาแน่นของเนื้อไม้อยู่ที่ 0.5 และไม้สักทองมีเนื้อไม้อยู่ที่ 0.56 ซึ่งใกล้เคียงกันมาก
สีเนื้อไม้ก็ใกล้เคียงกัน ประโยชน์ของต้นตะกู คือ นำไปทำเฟอร์นิเจอร์ได้ทุกชนิด ทำไม้กระดาน เสาบ้าน ประตู หน้าต่าง วงกบ ทำเรือขุด เพราะว่าต้นไม้มีขนาดใหญ่ มีเนื้อไม้ที่ละเอียด มีน้ำหนักเบากว่าไม้ประดู่หรือไม้มะค่า น้ำหนักใกล้เคียงกับไม้สักและนำไปทำกลอง ด้ามปืน
ตะกูจะมีกลิ่นธรรมชาติที่ปลวกและมอดไม่ชอบ หากมีอายุ 2 ปีขึ้นไปจะทนต่อสภาวะน้ำท่วมและโดนไฟป่าไม่ตาย ต้นตะกูจะปลูกด้วยกล้าพันธุ์ สูงประมาณ 6-12 นิ้ว ขุดหลุมกว้าง 30 x 30 ซม. หากเป็นพื้นที่ลูกรังควรขุดหลุมกว้างกว่าปกติ 40 x 40 เซนติเมตร ควรขุดหลุมตากแดดทิ้งไว้เพื่อฆ่าเชื้อ ควรใส่ปุ๋ยรองก้นหลุม เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยชีวภาพคลุกกับดิน (ห้ามใช้ปุ๋ยเคมี) ระยะเริ่มปลูกถึง 2 เดือน ควรดูแลรดน้ำอย่างสม่ำเสมอและอยู่ในคำแนะนำของเรา เพราะจะทำให้ต้นกล้าไม่ชะงักการเจริญเติบโต พอต้นไม้อายุประมาณ 5 เดือน สูงประมาณ 5 เมตร
ราคาของต้นกล้า
ราคาต้นกล้าของไม้ 2 ประเภทจะอยู่ระหว่าง 3-5 บาท ขนาดและความสูงของต้นกล้า มีผลต่อราคา
และต้นกล้าของไม้ตะกู ราคามักจะสูงกว่าต้นสัก อาจจะประมาณ 25-35 บาท (ถ้ามีความสูงหลายฟุต)
ฤดูในการปลูก
การปลูกไม้สักและไม้ตะกูนั้นให้ปลูกในต้นฤดูฝน