วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ต้นไม้ตามราศี
ธาตุดิน (มังกร, พฤษภ, กันย์ )
ราศีมังกร เบอร์ 1
ไม้มงคลที่ควรปลูกคือ
1.แก้ว
2.วาสนา
3.โป๊ยเซียน
4.กุหลาบ
ไม้เหล่านี้จะเสริมความร่ำรวย รุ่งเรือง ทำให้เกิดโชคลาภ วาสนา ให้กับตนเอง และลูกหลาน
และไม้มงคลเพื่อเสริมดวงชะตา คือ
1.ต้นไผ่ = ความอดทนความเป็นนักสู้
2. ราชพฤกษ์ หรือต้นคูณ = ความรุ่งเรือง
3.ต้นจำปี = ความร่มเย็น
ข้อแนะนำ : ห้ามปลูกตรงทางเข้าประตูรั้วด้านหน้า เพราะเป็นการทำให้ปากมังกรอับจน ควรจะปลูกด้านข้าง หรือ ด้านหลัง หรือบริเวณรอบๆ
*********************************************
ราศีพฤษภ เบอร์ 2ไม้
มงคลที่ปลูกคือ
1. ต้นโมก = ความสุขความบริสุทธิ์สดใส และคุ้มกันภัย
(ปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ้านและควรปลูกในวันเสาร์)
2. ต้นแก้ว = โชคลาภ คนในบ้านจะมีความดี มีคุณค่าสูง
(ควรปลูกทางทิศ ตะวันออกและควรปลูกในวันพุธ)
3. ส้มโอ = ความอุดมสมบูรณ์
*********************************************
ราศี กันย์ เบอร์ 3
ไม้มงคลคือ
1.สนฉัตร = มีเกียรติและความสง่า ได้รับความสนใจจากบุคคลทั่วไป
(ควรปลูกทางทิศเหนือและปลูกในวันเสาร์เพื่อเป็นศิริมงคล)
2.ต้นคูน(ราชพฤกษ์) = เสริมให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีและบารมี
3.เฟื่องฟ้า = ความสดใส เบิกบาน มีชีวิตที่เฟื่องฟู
4.โป๊ยเซียน = นำมาซึ่งโชคลาภ
5.ขนุน = บ้านจะหนุนเนื่อง บุญบารมี เงินทอง จะมีคนเกื้อหนุน และอุดหนุนจุนเจือช่วยเหลือ
6.มะยม = คนจะได้นิยมชมชอบนับหน้าถือตา
*********************************************
ธาตุน้ำ (กรกฎ, พิจิก, มีน)
ราศีกรกฎ เบอร์ 1
ไม้มงคล
1. ต้นชมพู่ = ช่วยให้อุดมทรัพย์ มั่งมีเงินทอง
2. ต้นวาสนา = วาสนาสูงส่ง ทำให้ผู้ปลูกมีบุญ มีโชควาสนาที่ประเสริฐ เกิดความสุข สมหวัง
3. ต้นพลูด่าง = นำพามาซึ่งความร่มเย็น
4.เฟื่องฟ้า = ช่วยเสริมให้ชีวิตสดใสเบิกบาน
5.กล้วยไม้ = ให้โชคลาภ ดอกที่สวยงาม จะทำให้เกิดความประทับใจแก่ผู้พบเห็น และเชื่อว่าจะ ทำให้คนในบ้านมีจริยธรรม
*********************************************
ราศีพิจิก เบอร์ 2
ไม้มงคลคือ
1.พวงแสด = ชีวิตที่สว่างไสว
2.เฟื่องฟ้า = สดใสเบิกบาน
3.ว่านสี่ทิศ = ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ต่างถิ่น ในทิศใดก็จะแคล้วคลาด ปลอดภัย และมีแต่ผู้ให้ความช่วยเหลือ4.ปาล์ม = รุ่งเรือง
5.เบญจมาศ = รุ่งเรืองมั่นคง
6.ขนุน = รุ่งเรืองมั่นคง บุญบารมี เงินทอง จะมีคนเกื้อหนุน และอุดหนุนจุนเจือ ขนุน *********************************************
ราศีมีน เบอร์ 3
ไม้มงคลคือ
1.เฟื่องฟ้า = เสริมความร่ำรวย ชีวิตที่รุ่งเรือง สดใสเบิกบาน
2. กล้วยไม้ = เสริมความร่ำรวย รุ่งเรือง และให้โชคลาภ ทำให้เกิดความประทับใจแก่บุคคลทั่วไป ทำให้คนในบ้านมีจริยธรรม
3.วาสนา = ทำให้ผู้ปลูกมีบุญ มีโชควาสนาที่ประเสริฐ เกิดความสุข สมหวัง
( ถ้าสามารถปลูกได้สวยงามและออกดอก เชื่อว่าจะทำให้มีโชคลาภ ปรารถนาสิ่งใดก็จะได้ดังหวัง)
4. โมก = ให้พลังอำนาจ
5.กล้วย = เสริมบารมีคุ้มครองบริวารและลูกหลาน
6.มะม่วง = เสริมบารมีคุ้มครองบริวารและลูกหลาน*********************************************
ธาตุลม (ตุลย์ , กุมภ์, เมถุน)
ราศีตุลย์ เบอร์ 1
ไม้มงคล คือ
1.ต้นโกสน = เสริมให้มีบุญบารมี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
2.หมากแดง = เสริมให้มีบุญบารมี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
3.ปาล์ม = เสริมให้มีบุญบารมี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
4.จำปี = จะทำให้ชีวิตสดใสการงานก้าวหน้าไปในทางที่ถูกที่ควร มีแต่ความรุ่งเรือง ปราศจากปัญหาใดๆ
5.จำปา = เพื่อให้มีแต่คนรัก
6.พลูด่าง= เสริมให้มีบุญบารมี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
7.เฟิร์นข้าหลวง = นำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศแก่ผู้ปลูก*********************************************
ราศีกุมภ์ เบอร์ 2
ไม้ที่ควรปลูกคือ
1.ต้นเข็ม = เสริมพลังความฉลาดเฉียบแหลม
2.เฟื้องฟ้า = สร้างคุณค่าของชีวิตให้สูงขึ้น แสดงถึงชีวิตที่สดใสเบิกบาน สว่าง รุ่งเรือง และความก้าวไกลแห่งชีวิต
3.บอนไซ = ความแข็งแกร่ง อดทน ปลูกบริเวณสวนหน้าบ้าน โรงงาน หรือร้านค้าของตน เพื่อเป็นศิริมงคลให้เกิดความมั่นคั่ง รุ่งเรือง และมีชีวิตที่ยืนยาว
*********************************************
ราศีเมถุน เบอร์ 3
ไม้มงคลคือ
1.ต้นกุหลาบ = จะเกิดความสง่าภาคภูมิ จะทำให้คนในบ้านมีคุณค่าแห่งชีวิตที่สูง
2.ต้นโป๊ยเซียน = เป็นไม้เสี่ยงทาย ถ้าปลูกออกดอกได้มากกว่า 8 ดอก ผู้ปลูกและคนในบ้านจะมีโชคลาภ และช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
3.ต้นโมก = จะทำให้เกิดความสุข ความบริสุทธิ์ และความสดใส
4.ต้นทับทิม = เพื่อให้เกิดความสงบร่มเย็นของชีวิต
5.ต้นเข็ม = ควรปลูกเป็นร่องตรงประตูบ้าน หรือสองฝากทางเข้าบ้านจะทำให้ชะตารุ่งเรือง อุปสรรคและปัญหาไม่กล้ำกลาย
*********************************************
ธาตุไฟ (เมษ,สิงห์,ธนู)
ราศีเมษ เบอร์ 1
ไม้มงคลคือ
1.ต้นมะยม = เพื่อให้คนนิยมชมชอบ พลังช่วยหนุนให้ชาวราศีเมษประสบความสำเร็จในชีวิต และในหน้าที่การงาน
2.ต้นมะขาม = เพื่อให้ผู้คนเกรงขาม ให้ความนับถือ พลังช่วยหนุนให้ชาวราศีเมษประสบความสำเร็จในชีวิต และในหน้าที่การงาน
3.ต้นเฟื่องฟ้า = เพื่อความร่ำรวย สว่างไสว และสดใสเบิกบาน
*********************************************
ราศีสิงห์ เบอร์ 2
ไม้มงคลคือ (ควรเป็นต้นไม้ให้ความร่มรื่น)
1.กล้วยไม้ = ดอกสวยของกล้วยไม้ย่อม เป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น จึงถือเคล็ดที่ว่าการปลูกกล้วยไม้จะทำให้เกิดความประทับใจแก่บุคคลทั่วไป
2.ต้นกล้วย = อุดมสมบูรณ์
3.ต้นปาล์ม = มั่นคง
4.ต้นหมากแดง = ร่มเย็น
5.ต้นไทร = ร่มเย็น
6.ต้นโมก = ร่มเย็น
7.ขนุน = จะหนุนเนื่อง บุญบารมี เงินทอง มีคนเกื้อหนุน และอุดหนุนจุนเจือ
8.จำปี = ดอกสีขาวบริสุทธิ์มีกลิ่นหอม จะทำให้ชีวิตสดใสการงานก้าวหน้าไปในทางที่ถูกที่ควร มีแต่ความรุ่งเรือง ปราศจากปัญหาใดๆ
9.โป๊ยเซียน = เพื่อเสริมความร่ำรวย รุ่งเรือง เป็นไม้เสี่ยงทาย เชื่อว่าถ้าออกดอก 8 ดอกแล้วจะทำให้มีโชคลาภ
*********************************************
ราศีธนู เบอร์ 3
ไม้มงคล คือ
1.อ่างบัว = จะทำให้เกิดความบริสุทธิ์ เบิกบาน ทำให้คนในครอบครัวมีความห่วงใยผูกพันธ์กัน
2. เฟิร์นข้าหลวง = จะนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศแก่ผู้ปลูก
3. แก้ว= ช่วยกระจายอุปสรรคปัญหาออกไปจากชีวิต
4.พลูด่าง = จะช่วยเสริมโชคลาภ ช่วยให้ชีวิตช่วงที่ตกต่ำกลับดีขึ้นมาก
6. โป๊ยเซียน = จะช่วยเสริมโชคลาภ ช่วยให้ชีวิตช่วงที่ตกต่ำกลับดีขึ้นมาก
7. โป๊ยเซียน = จะช่วยเสริมโชคลาภ ช่วยให้ชีวิตช่วงที่ตกต่ำกลับดีขึ้นมาก
8.ต้นลั่นทม = จะช่วยเสริมโชคลาภ ช่วยให้ชีวิตช่วงที่ตกต่ำกลับดีขึ้นมาก
9.ต้นแก้ว = จะช่วยเสริมโชคลาภ ช่วยให้ชีวิตช่วงที่ตกต่ำกลับดีขึ้นมาก *********************************************
อ้างอิง : http://www.propertyth.com/garden/doo.php?id=163
ไม้มงคล 9 ชนิด
คนนิยมปลูกไม้เหล่านี้เพื่อความเป็นศิริมงคล และนำไม้เหล่านี้มาผลิตเป็น "ธูปกำยาน " มีกลิ่นหอม จุดเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมฮวงจุ้ย สภาพคล่องด้านการเงิน การงาน การค้า โดยส่วนมากจะผลิตเป็นรูปปลา 3 กษัตริย์ และรูปกรวยไม้
ไม้มงคลทั้ง 9 ชนิด ประกอบด้วย
1. ไม้สัก (เงินทอง)
2. ไม้ทองหลาง (บารมี)
3. ไม้ราชพฤกษ์ หรือต้นคูณ (อยู่เย็นเป็นสุข)
4. ไม้ชัยพฤกษ์ (อยู่เย็นเป็นสุข)
5.ไม้ไผ่สีสุก (สุขสงบ)
6. ไม้ขนุน (มีคนอุปถัมป์)
7. ไม้พยุง (มีคนค้ำจุน พยุงไม่ให้ธุรกิจล้ม)
8. ไม้ทรงบาดาล (ทรงยศ)
ที่มา: http://www.mahamodo.com/tamnai/tamnai_miscellaneous/images/tree9_songbadan.jpg
9. ไม้กันเกรา (เสริมสิ่งดี ๆ )
วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
รูปและชื่อของต้นไม้
1. ผมทอง
(ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร หาไม่เจอเลย)
2. พยอม
ปกาโปเปียล หรือ ดอกพยอม ที่ออกดอกชูช่อเป็นพวงพู่ระย้าขาวสวยงาม ยืนต้นสูงใกลพื้นดินมาก ออกดอกในช่วงประมาณปลายเดือนมกราคม -มีนาคม ดอกพยอมจะบานสะพรั่งขาวไปทั้งพุ่มบนต้นสวยงาม และส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ชาวเขมรในบางพื้นที่อีสานใต้ของไทยนิยมนำดอกไม้ดังกล่าวมาประดับปะรำพิธี ปัญโจลมม็วต (พิธีการเข้าทรงเเม่มด)(ที่มา : http://www.oknation.net/blog/yongyoot/2008/06/01/entry-1)
3. มะฮอกกานี
ที่มา http://www.bloggang.com/data/patunga/picture/1104075269.jpg
4. คูณ หรือ ชื่อทางการคือ ต้นราชพฤกษ์ (1 ใน 9 ของไม้มงคล)
ที่มา: http://www.bloggang.com/data/hotpink/picture/1174633776.jpg5. แคนา
ที่มา : http://www.treenonsee.th.gs/web-t/reenonsee/carena.jpg
6.ปีบขาว + ปีบทอง
ปีบขาว
ที่มา : http://www.jatujakshop.com/shop/photo_product/shop829.jpgปีบทอง
ที่มา: http://gotoknow.org/file/khajitfoythong/peep2.jpg7. ต้นตีนเป็ด
ที่มา : http://www4.pantown.com/data/5050/board13/367-20070829121649.jpg8. มะยม
9. ชมพูพันทิพย์
ที่มา: http://eng2512.nisitchula.com/forum/uploads/Guest/suwit_411.jpg
10. สะเดา และ สะเดาเทียม
สะเดา
ที่มา :http://203.172.208.242/tatalad/subject/SARA/BOOK18/b18p171b.jpg
สะเดาเทียม
ที่มา : http://www.joenet.th.gs/web-j/oenet/t12.jpg11. ขี้เหล็ก
ที่มา: http://www.paradiseland.th.gs/web-p/aradiseland/image/ต้นขี้เหล็กบ้าน.jpg12. หูกระจง
ที่มา:http://www.thaimtb.com/webboard/474/237268-56.jpg
13. ลำดวน
ดอกลำดวน หรือ ปการันดูล หรือ รันนูล เป็นดอกไม้ที่มีค่า ทั้งความงามและความหอม ความงามของกลีบดอกที่เเข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อม แม้จะพลิดอกในช่วงฤดูร้อน แต่ ความหอมและความงามต่างเป็นที่หมายปองของคนทั่วไปที่ต้องการจะเด็ดมาเป็นเจ้าของ
(ที่มา : http://www.oknation.net/blog/yongyoot/2008/06/01/entry-1)
14. กันเกรา
ที่มา: http://www.bloggang.com/data/makmaithai/picture/1193622135.jpg
**********************************************
16. ประดู่กิ่งอ่อน
ที่มา: http://www.thaimtb.com/webboard/322/161300-28.jpg17. กฤษณาพันธุ์เขาใหญ่
18. ยางนา
ที่มา: http://mail.vcharkarn.com/uploads/68/68849.jpg
19. พยุง (1 ใน 9 ของไม้มงคล)
ที่มา: http://i63.photobucket.com/albums/h123/dtreesak/Home%20Garden%2027-05-06/2006_05280065-rzd.jpg20. ประดู่แดง
ที่มา: http://moosee.nmpp.go.th/web/admin/picture/Praduudxxng1.jpg21. มะรุม
22. มะตูม
23. มะขาม
ที่มา: http://www.udvc.ac.th/udvc22/rakan1/image/in/14._resize.JPG25. มะม่วง 3 ฤดู
ที่มา: http://www.doae.go.th/library/html/detail/mango4/m3.gif
วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2551
ไม้เศรษฐกิจ
ขอแนะนำไม้เศรษฐกิจที่น่าสนใจ เป็นไม้ใหญ่ ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง
ได้แก่ ไม้สัก กับไม้ตะกู ซึ่งไม้ทั้ง 2 ชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษคือ ปลวกและมอดไม่กินเนื้อไม้ ซึ่งไม้ตะกูจะมีคุณภาพเนื้อไม้ใกล้เคียงกับไม้สัก แต่ใช้ระยะเวลาในการปลูกสั้นกว่า (ระยะเวลาพอ ๆ กับไม้ยูคาลิปตัส)
แต่โดยภาพรวมแล้วไม้ทั้ง 2 ชนิดนี้จะใช้เวลาในการปลูกนานกว่าไม้ชนิดอื่น ๆ
ไม้สักทอง (สายพันธุ์โตเร็ว)
ระยะเวลาปลูก 15-20 ปี
ไม้สัก (Teak) มีถิ่นกำเนิดอยู่ในตอนใต้ของประเทศอินเดีย พม่า ไทย อินโดนีเซีย และหมู่เกาะอินเดียตะวันออก เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ ชอบขึ้นตามพื้นที่ที่เป็นภูเขา แต่ในพื้นที่ราบที่น้ำไม่ขังไม้สักก็ขึ้นได้ดีเช่นเดียวกัน ในพื้นที่ที่เป็นดินปนทรายแต่น้ำไม่ขัง ไม้สักมักขึ้นเป็นหมู่ไม้สักล้วน ๆ และมีไม้ขนาดใหญ่ ชอบพื้นที่ที่มีชั้นดินลึก การระบายน้ำดี ไม่ชอบดินแข็งและน้ำท่วมขัง แต่ความเจริญงอกงามของไม้สักขึ้นอยู่กับความลึก การระบายน้ำ ความชื้น และความอุดมสมบูรณ์ ของดินนั้น ๆ โดยเฉพาะในดินที่เกิดจากหินปูนซึ่งแตกแยกผุผังจนกลายเป็นดินร่วนที่ลึก ไม้สักชอบมากและเจริญเติบโตดีมาก ไม้สักชอบดินที่มีความเป็นกลางและด่างเล็กน้อย ค่า pH ระหว่าง 6.5-7.5 ปริมาณน้ำฝน ระหว่าง 1,200-2,000 มม. ต่อปี ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางไม่เกิน 700 เมตร และมีฤดูแล้งแยกจากฤดูฝนชัดเจนจะทำให้ไม้สักมีลวดลายสวยงาม
- คุณลักษณะของไม้สัก
- ราคารับซื้อไม้สัก
รอบวง 45-49 ซม ราคา 2,800 บาท
รอบวง 50-54 ซม ราคา3,500 บาท
รอบวง 55-59 ซม ราคา 3,900 บาท
รอบวง 60-64 ซม ราคา 4,500 บาท
รอบวง 65-69 ซม ราคา 5,200 บาท
รอบวง 70-74 ซม ราคา 6,500 บาท
รอบวง 75-79 ซม ราคา 7,000 บาท
ปลูกไม้เวลา 20 ปี มีมูลค่าได้ถึงต้นละ 1 แสนบาทเชียว
ไม้ตะกู (สายพันธุ์ก้านแดง)
ระยะเวลาปลูก 5 ปี
ต้นตะกู หรือ ตุ้มหลวง ตุ้มเนี่ยง ตุ้มพราย ทุ่มพราย กระทุ่มบก ต้นตะกูเป็นไม้ขนาดใหญ่ สูง 15 – 30 เมตร กิ่งออกเกือบตั้งฉากกับลำต้น แผ่นใบเกลี้ยงหรือมีขนนุ่มสั้นอยู่ด้านล่าง หูเป็นรูปสามเหลี่ยม ดอกสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อกระจุกแน่น กลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 – 5 ซ.ม.ก้านช่อยาว 3 – 4 ซ.ม. ดอกเล็กอัดกันแน่น กลีบเลี้ยงเป็นหลอดสั้น กลีบดอกสีเหลืองเชื่อมกันเป็นหลอดยาวรูปดอกเข้ม ผลเป็นกระจุกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและสีน้ำตาลเมื่อแก่ ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น ตามหุบเขาหรือริมลำธาร
ต้นตะกูอาจจะไม่คุ้นหู เพราะใกล้สูญพันธ์ในประเทศไทยแล้ว
- คุณลักษณะของตะกู
- ราคารับซื้อไม้ตะกู
ตะกูมีเนื้อไม้ 2.5 คิว ปัจจุบันราคาไม้ คิวละ 2,500 บาท
ไม้ตะกูมีความหนาแน่นของเนื้อไม้อยู่ที่ 0.5 และไม้สักทองมีเนื้อไม้อยู่ที่ 0.56 ซึ่งใกล้เคียงกันมาก
สีเนื้อไม้ก็ใกล้เคียงกัน ประโยชน์ของต้นตะกู คือ นำไปทำเฟอร์นิเจอร์ได้ทุกชนิด ทำไม้กระดาน เสาบ้าน ประตู หน้าต่าง วงกบ ทำเรือขุด เพราะว่าต้นไม้มีขนาดใหญ่ มีเนื้อไม้ที่ละเอียด มีน้ำหนักเบากว่าไม้ประดู่หรือไม้มะค่า น้ำหนักใกล้เคียงกับไม้สักและนำไปทำกลอง ด้ามปืน
ตะกูจะมีกลิ่นธรรมชาติที่ปลวกและมอดไม่ชอบ หากมีอายุ 2 ปีขึ้นไปจะทนต่อสภาวะน้ำท่วมและโดนไฟป่าไม่ตาย ต้นตะกูจะปลูกด้วยกล้าพันธุ์ สูงประมาณ 6-12 นิ้ว ขุดหลุมกว้าง 30 x 30 ซม. หากเป็นพื้นที่ลูกรังควรขุดหลุมกว้างกว่าปกติ 40 x 40 เซนติเมตร ควรขุดหลุมตากแดดทิ้งไว้เพื่อฆ่าเชื้อ ควรใส่ปุ๋ยรองก้นหลุม เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยชีวภาพคลุกกับดิน (ห้ามใช้ปุ๋ยเคมี) ระยะเริ่มปลูกถึง 2 เดือน ควรดูแลรดน้ำอย่างสม่ำเสมอและอยู่ในคำแนะนำของเรา เพราะจะทำให้ต้นกล้าไม่ชะงักการเจริญเติบโต พอต้นไม้อายุประมาณ 5 เดือน สูงประมาณ 5 เมตร
ราคาของต้นกล้า
ราคาต้นกล้าของไม้ 2 ประเภทจะอยู่ระหว่าง 3-5 บาท ขนาดและความสูงของต้นกล้า มีผลต่อราคา
และต้นกล้าของไม้ตะกู ราคามักจะสูงกว่าต้นสัก อาจจะประมาณ 25-35 บาท (ถ้ามีความสูงหลายฟุต)
ฤดูในการปลูก
การปลูกไม้สักและไม้ตะกูนั้นให้ปลูกในต้นฤดูฝน